Feeds:
เรื่อง
ความเห็น

Archive for the ‘บทกวี’ Category

 

ชาวนา

 

คำร้อง/ทำนอง : ไพบูลย์ บุตรขัน (แต่งเมื่อ พ.ศ. 2496)
ขับร้อง : ชาญ เย็นแข 

อย่าดูหมิ่นชาวนาเหมือนดั่งตาสี
เอาผืนนาเป็นที่พำนักพักพิงร่างกาย
ชีวิตเอยไม่เคยสบายฝ่าเปลวแดดแผดร้อนแทบตาย
ไล่ควายไถนาป่าดอน

เหงื่อรินหยดหลั่งลงรดแผ่นดินไทย
จนผิวดำเกรียมไหม้แดดเผามิได้อุทรณ์
เพิงพักกายมีควายเคียงนอน
สาบควายกลิ่นโคลนเคล้าโชยอ่อนยามนอนหลับแล้วใฝ่ฝัน

กลิ่นโคนสาบควายเคล้ากายหนุ่มสาวแห่งชาวบ้านนา
ไม่ลอยเลิศฟ้าเหมือนชาวสวรรค์
หอมกลิ่นน้ำปรุงฟุ้งอยู่ทุกวันกลิ่นกระแจะจันทน์
หอมเอยผิวพรรณนั้นต่างชาวนา

อย่าดูถูกชาวนาเห็นว่าอับเฉา
มือถือเคียวชันเข่าเกี่ยวข้าวเลี้ยงเราผ่านมา
ชีวิตคนนั้นมีราคาต่างกันแต่ชีวิตชาวนาบูชากลิ่นโคนสาบควาย

 

Read Full Post »

 

เพลง: รำลึกวีรชน
คำร้อง/ทำนอง: ยุทธพงษ์ ภูริสัมบรรณ (รวี โดมพระจันทร์)
ขับร้อง: อ่อนศรี อินทวุฒิชัย (ส.พงา)
 
ชีพนี้ เพื่อนพลีมอบให้ แด่ประชาไทยผู้ทุกข์ระทม
เกิดตายสักพันครั้งก็ยิ่งชื่นชม ไม่ให้ผู้ข่มขี่ไทย ทำทารุณ
เพื่อนเอ๋ย แม้ตายก็ไม่ อาจจากจางใจ ที่แสนคุกรุ่น
เลือดเพื่อนไหลริน โลมดินอุ่น ๆ เราจะหนุน เนื่องสู้ ศัตรูใจทราม
ร่างเพื่อนล้มลง เรายังอยู่ เมื่อเพื่อนสู้ เราสู้ตาย เราสู้ตาม
เทิดศักดิ์ศรี วีรชนอันเรืองนาม สถิตย์คู่คามเขตแคว้นแดนไทย

Read Full Post »

ชาวนา

เปิบข้าว

ประพันธ์โดย จิตร ภูมิศักดิ์

เปิบข้าวทุกคราวคำ
เหงื่อกูที่สูกิน

ข้าวนี้น่ะมีรส
เบื้องหลังซิทุกข์ทน

จากแรงมาเป็นรวง
จากรวงเป็นเม็ดพราว

เหงื่อหยดสักกี่หยาด
ปูดโปนกี่เส้นเอ็น

น้ำเหงื่อที่เรื่อแดง
สายเลือดกูทั้งสิ้น

จงสูจำเป็นอาจิณ
จึงก่อเกิดมาเป็นคน

ให้ชนชิมทุกชั้นชน
และขมขื่นจนเขียวคาว

ระยะทางนั้นเหยียดยาว
ล้วนทุกข์ยากลำบากเข็ญ

ทุกหยดหยาดล้วนยากเย็น
จึงแปรรวงมาเป็นกิน

และน้ำแรงอันหลั่งริน
ที่สูซดกำซาบฟัน

Read Full Post »

อิศาน

นาแล้ง

 

โดย นายผี อัสนี พลจันทร์ (สหายไฟ )  

ในฟ้าบ่มีน้ำ

น้ำตาที่ตกราย

แดดเปรี้ยงปานหัวแตก

แผ่นอกที่ครางครึม

มหาห้วยคือหนองหาน

ย้อมชีพคือลำชี

แลไปสดุ้งปราณ

คิดไปในใจคอ

พี่น้องผู้น่ารัก,

ยืนนิ่งบ่ติงคือ

เขาหาว่าโง่เง่า

รักเจ้าบ่จาง ฮา!

เขาซื่อสิว่าเซ่อ

ฉลาดทานเทียมผู้แทน

กดขี่บีฑาเฮา

เที่ยววิ่งอยู่โทงโทง

รื้อคิดยิ่งรื้อแค้น

เสียตนสิทนทาน

ในฟ้าบ่มีน้ำ

น้ำตาที่ตกราย

สองมือเฮามีแฮง

สงสารอีศานสิ้น

พายุยิ่งพัดอื้อ

อีศานนับแสนแสน

ในดินซ้ำมีแต่ทราย

ก็รีบซาบบ่รอซึม

แผ่นดินแยกอยู่ทึบทึม

ขยับแยกอยู่ตาปี

ลำมูลผ่านเหมือนลำผี

อันชำแรกอยู่รีรอ

โอ! อีศาน,ฉะนี้หนอ…

บ่ค่อยดีนี้ดังฤา?

น้ำใจจักไฉนหือ?

จะใคร่ได้อันใดมา?

แต่เพื่อนเฮานี่แหละหนา

แลเหตุใดมาดูแคลน…

ผู้ใดเน้อนะดีแสน

ก็เห็นท่าที่กล้าโกง

ใครนะเจ้า? จงเปิดโปง

เที่ยวมาแทะให้ทรมาน

ละม้ายแม้นห่าสังหาร

ก็บ่ได้สะดวกดาย

ในดินซ้ำมีแต่ทราย

คือเลือดหลั่ง! ลงโลมดิน

เสียงเฮาแย้งมีคนยิน

อย่าซุด, สู้ด้วยสองแขน!

ราวป่าหรือราบทั้งแดน

สิจะพ่ายผู้ใดเหนอ?

(สยามสมัย. ปีที่ 5 ฉ.256, 7 เม.ย.2495)

Read Full Post »


วิสา คัญทัพ

“ไม่มีอำนาจใด ในโลกหล้า
ผู้ปกครองต่างมา แล้วสาบสูญ
ไม่มีใครล้ำเลิศ น่าเทิดทูน
ประชาชนสมบูรณ์ นิรันดร์ไป
เมื่อยืนหยัดต่อสู้ ผู้กดขี่
ประชาชนย่อมมี ชีวิตใหม่
เมื่อท้องฟ้าเป็นสีทอง ผ่องอำไพ
ประชาชนย่อมเป็นใหญ่ ในแผ่นดิน”

วิสา คัญทัพ

Read Full Post »

Older Posts »